ปัจจุบันเราจะพบว่ามีการสารให้ความหวานมาทดแทนน้ำตาลกันมากขึ้น โดยส่วนมากจะเป็นเหตุผลทางด้านการควบคุมน้ำหนัก เนื่องด้วยสารทดแทนน้ำตาลส่วนมากนั้นจะไม่มีพลังงาน หรือทานแล้วไม่ทำให้อ้วนนั่นเอง จึงเป็นที่นิยมกันมากขึ้น แต่ทั้งนี้เองสารให้ความหวานเองก็มีทั้งจากการสังเคราะห์ทางเคมี และจากธรรมชาติ และพืชที่ให้ความหวานจากธรรมชาติที่นิยมมาใช้กันนั่นก็คือ หญ้าหวาน นั่นเอง
หญ้าหวาน หรือ (Stevia) มีลักษณะคล้ายต้นกะเพราหรือต้นแมงลัก ซึ่งในส่วนของใบจะให้สารที่มีรสหวานมากกว่าน้ำตาล 10-15 เท่า และสารสกัดที่ได้จากหญ้าหวานจะมีชื่อว่า สตีวิโอไซด์ (Stevioside) จะให้ความหวานมากกว่าน้ำตาล 200-300 เท่า ปัจจุบันนิยมนำมาผสมในเครื่องดื่ม ขนมและอาหารแทนน้ำตาล ซึ่งสารดังกล่าวนั้นเป็นสารที่คล้ายคลึงกับน้ำตาลทรายมาก
หญ้าหวานนิยมอย่างยิ่งในหมู่คนที่รักสุขภาพเนื่องจากว่าแม้ว่าหญ้าหวานจะให้ความหวานมากกว่าน้ำตาลหลายเท่าเพียงใดแต่ในทางพลังงานแล้วนั้นหญ้าหวานกลับมีค่าเท่ากับ 0 แคลอรี่ ซึ่งปลอดภัยทั้งกับคนที่ต้องการลดหรือควบคุมน้ำหนัก หรือแม้กระทั่งผู้ป่วยโรคเบาหวาน ซึ่งปัจจุบันสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) อนุญาตให้นำสารสกัด stevioside มาขึ้นทะเบียนเป็นสารให้ความหวานแทนน้ำตาลได้แล้ว (ในที่สุด)
ประโยชน์ของหญ้าหวาน
- ใช้เป็นสารให้ความหวานแทนน้ำตาลซึ่งไม่ส่งผลต่อน้ำตาลในเลือด ผู้ป่วยโรคเบาหวานหรือผู้ที่ต้องการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด สามารถรับประทานได้
- เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนลดน้ำหนักหรือควบคุมน้ำหนัก เนื่องจากว่าหญ้าหวานไม่ให้พลังงาน
- ช่วยลดไขมันในเส้นเลือดได้ดี
- ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูงและโรคอ้วน
- ช่วยเพิ่มกำลัง
- ใช้ทดแทนเกลือแร่ในผู้ที่ขาดน้ำ
ผลิตภัณฑ์หญ้าหวานสกัด
มีผลิตภัณฑ์สารให้ความหวานแทนน้ำตาลมากมาย เราอาจเคยได้ยินสาร Sucalose (C12H19Cl3O8) หรือ Aspatame (C14H18N2O5) ซึ่งทั้งคู่นั้นเป็นสารให้ความหวานที่ไม่ให้พลังงานเช่นเดียวกับหญ้าหวาน แต่ที่ต่างกันคือทั้งคู่เป็นสารสังเคราะห์ ฉะนั้นด้านความปลอดภัยต่อสุขภาพนั้นหญ้าหวานจึงดีกว่ามาก แต่ทั้งนี้เองสารสกัดจากหญ้าหวานแต่ละแบรนด์ก็ให้ความรสรสชาติแตกต่างกันไป (มันก็หวานนั่นแหละ แต่จะมีรายละเอียดแตกต่างกัน) ซึ่งก็อยู่ที่ความชื่นชอบของแต่ละบุคคล สำหรับแอดมินเองนั้นใช้แบรนด์ตามรูปด้านบนนี้อยู่ (SweetLeaf) ซึ่งก็คงจะพบรีวิวได้ในเร็วๆนี้
Credit : manager.co.th